แผนยุทธศาสตร์ระยะ 5 ปี

แผนยุทธศาสตร์ของ
Harvard Asia Academy
ธุรกิจที่ปรึกษาและการฝึกอบรมของเอเชีย

ความมุ่งมั่นและความท้าทายในอนาคต

  • เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจที่ปรึกษาและการฝึกอบรมของภูมิภาคเอเชีย โดยนำเสนอบริการที่เป็นนวัตกรรมและสร้างสรรค์ทางวิทยาการความก้าวหน้า ชุดองค์ความรู้ และวิชาการในระดับโลกที่เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาองค์กร
  • ความท้าทายหลักของเราคือการช่วยเหลือ ยกระดับ และสร้างคุณค่าแก่ลูกค้าของเราจากการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและธุรกิจที่รวดเร็ว

วิสัยทัศน์

เป้าหมายและการวัดผล

  • เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ 20% ในทุกๆ ปี
  • ยกระดับความพึงพอใจ ประทับใจ และเชื่อมั่นของลูกค้าให้ถึง 90% (การวัดผลจะทำผ่านการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าและการวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย)
  • พัฒนาหลักสูตรอบรมใหม่ๆ อย่างน้อย 5 หลักสูตรต่อปี
  • ผลตอบแทนการลงทุนในบริการใหม่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของโครงการที่ริเริ่ม
  • กำไรจากการดำเนินธุรกิจเติบโตปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 12

กลยุทธ์และมาตรการ

  • การอบรมต่อเนื่อง : จัดหลักสูตรอบรมที่เน้นทักษะเฉพาะทางและการพัฒนาส่วนบุคคลแก่ที่ปรึกษา วิทยากร เพื่อรักษามาตรฐานและเพิ่มความรู้สูงสุด
  • การเข้าร่วมสัมมนาและเวิร์กช็อป : สนับสนุนให้ทีมเข้าร่วมสัมมนาและเวิร์กช็อปภายนอก เพื่ออัพเดตความรู้และเทคนิคใหม่ๆ
  • การสนับสนุนการศึกษาต่อยอด : ให้การสนับสนุนทางการเงินหรือเวลาในการศึกษาต่อยอด เช่น การเรียนรู้ต่อในระดับสูงหรือการได้รับใบรับรองทางวิชาชีพ
  • การจัดการความรู้ : ให้การเข้าถึงฐานข้อมูลและแหล่งข้อมูลวิชาการ เพื่อให้พนักงานสามารถเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ได้อย่างต่อเนื่อง
  • การเมนทอร์และโค้ชชิ่ง : จัดหาโอกาสในการเมนทอร์และโค้ชชิ่ง สำหรับการพัฒนาทักษะในการที่ปรึกษาและการสอน
  • การประเมินประสิทธิภาพ : วางระบบการประเมินประสิทธิภาพอย่างรอบคอบ ที่สะท้อนถึงการพัฒนาและการบรรลุเป้าหมายของทีม
  • การสร้างโอกาสในการนำ : ให้โอกาสทีมในการนำโครงการหรือหลักสูตรใหม่ๆ เพื่อพัฒนาทักษะในการนำและการจัดการ
  • การจัดตั้งโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ : จัดตั้งโครงการที่ทีมสามารถเรียนรู้จากการทำงานข้ามโปรเจกต์และแผนกต่างๆ
  • การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา : สนับสนุนให้ทีมที่ปรึกษาและวิทยากรทำวิจัยและพัฒนาเทคนิคหรือเนื้อหาใหม่ๆ
  • การให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและสมดุลชีวิตการทำงาน: สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนสุขภาพจิตที่ดีและสมดุลชีวิตการทำงาน เพื่อให้ทีมสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ
  • การวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง : ออกแบบกระบวนการวิจัยเพื่อระบุความต้องการการฝึกอบรมและแนวโน้มในอนาคต เพื่อให้หลักสูตรตอบโจทย์ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียให้ได้ดีที่สุด
  • การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ล่าสุด : นำเทคโนโลยีการเรียนรู้ใหม่ๆ มาใช้ เช่น การเรียนรู้ผ่าน Virtual Reality (VR) หรือ Augmented Reality (AR)
  • การทดลองและการพัฒนาต้นแบบ : สร้างหลักสูตรทดลองเพื่อทดสอบความสามารถในการนำไปใช้จริงและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรม
  • การใช้ Big Data และ Analytics : วิเคราะห์ข้อมูลจากการประเมินหลักสูตรและผลลัพธ์ของผู้เรียนเพื่อปรับปรุงคุณภาพหลักสูตร
  • การเข้าร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ : การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่ออัพเดตหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
  • การสร้างสื่อการเรียนรู้หลากหลาย : พัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น เกมส์, การจำลองสถานการณ์, และหลักสูตรออนไลน์
  • การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในทีมงาน : สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการคิดค้นและนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ จากทีมงาน
  • การใช้การเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) : ผสมผสานระหว่างการเรียนรู้แบบดั้งเดิมกับรูปแบบการเรียนรู้ออนไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ครบวงจร
  • การจัดการปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน : ใช้ระบบการตอบกลับที่ดีเพื่อรับข้อเสนอแนะจากผู้เรียนและปรับใช้ข้อเสนอแนะเหล่านั้นในการปรับปรุงหลักสูตร
  • การรับรองคุณภาพหลักสูตร : ดำเนินการรับรอง และขอรับการรับรองคุณภาพหลักสูตรจากสถาบันรับรองมาตรฐาน เพื่อยืนยันคุณภาพและประสิทธิภาพของหลักสูตร
  • การตลาดเนื้อหา (Content Marketing) : สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องกับบริการที่ปรึกษา เช่น บทความ, อินโฟกราฟิก, วิดีโอและพอดคาสต์ เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่น
  • การใช้โซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) : เป็นเครื่องมือที่ดีในการเชื่อมต่อและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น Facebook, LinkedIn, และ Twitter
  • การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) : ส่งจดหมายข่าวที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรใหม่ๆ และข้อเสนอพิเศษเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้าใหม่
  • การทำ SEO (Search Engine Optimization) : ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับในเครื่องมือค้นหา เพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะพบเว็บไซต์เมื่อค้นหาบริการที่เกี่ยวข้อง
  • การโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising) : ใช้ Google Ads หรือโฆษณาบนโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอน
  • การตลาดผ่าน Influencers : ร่วมมือกับบุคคลที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายฐานลูกค้า
  • การจัดเวิร์กช็อปและเว็บินาร์ : จัดการอบรมและเว็บินาร์ออนไลน์ฟรีเพื่อแนะนำบริการและเสริมสร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้า
  • การใช้เทคโนโลยีการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) : ใช้เครื่องมือที่ช่วยในการส่งข้อความและการติดตามผลลัพธ์อย่างอัตโนมัติ เพื่อทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การตลาดผ่านเครือข่ายสังคม (Community Building) : สร้างหรือเข้าร่วมกลุ่มในเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อสร้างชุมชนที่มีความสนใจเกี่ยวกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับบริการของคุณ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) : ใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์เพื่อเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการ
  • การสร้างระบบการจัดการความรู้ (Knowledge Management System) : พัฒนาระบบที่อนุญาตให้พนักงาน ลูกค้าอัพโหลด, จัดเก็บ, และค้นหาข้อมูลและเอกสารได้ง่าย
  • การใช้งานฐานข้อมูลส่วนกลาง : สร้างฐานข้อมูลส่วนกลางที่มีข้อมูลการฝึกอบรม, ข้อสรุปจากการปรึกษา, และบันทึกการเรียนรู้เพื่อการบริการลูกค้า
  • การสร้างชุมชนการเรียนรู้ (Learning Communities) : จัดตั้งชุมชนเพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน เช่น ฟอรั่มหรือกลุ่มแชท ที่ลูกค้า ที่ปรึกษา สามารถแลกเปลี่ยนความรู้
  • การจัดทำเอกสารกรณีศึกษา (Case Studies) : บันทึกและเผยแพร่กรณีศึกษาจากโปรเจกต์ที่ปรึกษาหรือหลักสูตรการฝึกอบรมที่สำเร็จ
  • การจัดการความรู้ผ่าน Wiki : ใช้ระบบ Wiki เพื่อให้ผู้ผ่านการอบรม ลุกค้าที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญสามารถร่วมกันเขียนและปรับปรุงความรู้ในรูปแบบที่อัพเดตได้ตลอดเวลา
  • การสร้างฐานข้อมูลถาม-ตอบ (FAQs) : จัดทำและอัพเดตฐานข้อมูลคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
  • การจัดการสารสนเทศเชิงลึก (Insights Repository) : สร้างฐานข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึก, ข้อมูลทางการตลาด, และแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
  • การจัดทำเวิร์กช็อปและเซสชันการเรียนรู้ : จัดเวิร์กช็อปที่ลูกค้าสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ
  • การใช้ระบบการจัดการเรียนรู้ออนไลน์ (LMS) : ใช้ LMS เพื่อการเข้าถึงหลักสูตรออนไลน์, ทรัพยากรการเรียนรู้, และการทดสอบออนไลน์
  • การส่งเสริมการเรียนรู้ข้ามฟังก์ชัน : สนับสนุนการแบ่งปันความรู้ระหว่างแผนกหรือฟังก์ชันต่างๆ ในองค์กร เพื่อสร้างความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ความรู้อย่างกว้างขวาง

ปรัชญาและปณิธานองค์กร

เราเชื่อว่าการพัฒนาบุคลากรและองค์กรเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตและความสำเร็จ ด้วยปณิธานนี้ เราจึงทุ่มเทให้กับการสร้างและนำเสนอบริการที่ช่วยให้ลูกค้าและสังคมได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง