มาตรการสร้างคุณค่าและมูลค่าเชิงนวัตกรรม (High Values Innovation) แผนกเภสัชกรรม

กรณีศึกษาของแผนกเภสัชกรรมของโรงพยาบาลราม ประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการแพทย์ที่รวดเร็วและล้ำสมัย การสร้างคุณค่าและมูลค่าเชิงนวัตกรรมในแผนกเภสัชกรรมจึงมิใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่มีผลต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของระบบบริการสุขภาพทั่วทั้งองค์กร สภาพแวดล้อมทางสุขภาพในปัจจุบันประสบกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่ ความซับซ้อนของโรคเรื้อรังที่เพิ่มมากขึ้น ความต้องการรักษาแบบแม่นยำและเฉพาะบุคคล ตลอดจนแรงกดดันในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ พร้อมกันนั้น การเปลี่ยนผ่านสู่สุขภาพดิจิทัลและการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในวงการแพทย์ ก็กำลังเปลี่ยนโฉมแนวทางการรักษาพยาบาลอย่างสิ้นเชิง
แผนกเภสัชกรรมจึงต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับกระบวนการทางคลินิกอย่างมีประสิทธิผล ในขณะเดียวกันยังต้องรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผู้รับบริการอย่างเข้มงวด ความเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับทิศทางนโยบายสุขภาพของประเทศและแนวโน้มระดับโลก ที่เน้นการรักษาแบบองค์รวมและแม่นยำ นอกจากนี้ การสร้างมูลค่าทางธุรกิจและนวัตกรรมในแผนกเภสัชกรรมยังเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันระดับสากลของโรงพยาบาลราม ทั้งในแง่ของการบริการ การวิจัย การพัฒนายาใหม่ รวมถึงการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อต่อยอดองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การขับเคลื่อนนวัตกรรมเชิงคุณค่าและมูลค่าในแผนกเภสัชกรรมจึงต้องสร้างสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความต้องการที่แท้จริงของผู้รับบริการ การปฏิรูปนี้จำเป็นต้องเกิดขึ้นในทุกมิติ ตั้งแต่การพัฒนาบุคลากร การนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้ การบริหารจัดการซัพพลายเชนยา ไปจนถึงการวิจัยและพัฒนาอย่างมีเป้าหมายชัดเจน การนำเสนอ 10 มาตรการนวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าของแผนกเภสัชกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นกรอบยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาแบบก้าวกระโดด (Leapfrog Development) เพื่อสร้างเสถียรภาพ ยกระดับบริการสุขภาพที่แม่นยำ และเป็นผู้นำด้านการจัดบริการสุขภาพในศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของผู้รับบริการ การสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ และความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาวของโรงพยาบาลราม