การก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ของการพัฒนาประเทศไทยในช่วง พ.ศ. 2568-2575 เป็นห้วงเวลาสำคัญที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาต้องปรับบทบาทและทิศทางการพัฒนาให้สอดคล้องกับความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงไป ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็วและรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สภาพภูมิอากาศ โครงสร้างประชากร ตลอดจนความขัดแย้งและความท้าทายในมิติต่างๆ มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นจำเป็นต้องทบทวนบทบาทและกำหนดทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถเป็น “คลังปัญญาแห่งชายแดนใต้” ได้อย่างแท้จริง พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นของประเทศ ด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา ภาษา และชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นทั้งทุนทางสังคมที่มีคุณค่าและความท้าทายในการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่มีรากฐานในพื้นที่มายาวนาน จึงมีความเข้าใจในบริบทและความต้องการของท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์และศักยภาพของพื้นที่ จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก ตลอดจนความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาได้กำหนดวัตถุประสงค์และจุดยืนทางยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 5 ประการ ประกอบด้วย การเป็นศูนย์กลางการวิจัยในบริบทสังคมพหุวัฒนธรรม การวิจัยพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และการวิจัยเชิงนโยบายและการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ประการนี้ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยคลังปัญญาแห่งชายแดนใต้ เป็นเลิศในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืนสู่สากล” เท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อเป้าหมายสำคัญ 4 ประการของมหาวิทยาลัย คือ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา การบูรณาการพันธกิจสู่การมีส่วนร่วมกับชุมชน การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น และการเป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศที่เป็นที่พึ่งของชุมชน
